การทำโฆษณา Facebook ในทุกวันนี้ ถือว่าเป็นเรื่องที่ท้าทายนักการตลาดและคนทำโฆษณาเฟสบุ๊คเป็นอย่างมาก เนื่องจากตัว Facebook เองได้ทำการอัพและเปลี่ยนแปลงอัลกอริธึมอยู่ตลอดเวลา สังเกตได้จากจำนวน Organic Reach หรือจำนวนคนเข้าถึงคอนเทนท์แบบธรรมชาติ (ที่ไม่ใช่การยิงแอดหรือโฆษณา) นั้นลดลงอย่างต่อเนื่อง
ดังนั้น การทำความเข้าใจประเภทของโฆษณา Facebook และเข้าใจเทคนิคของการสร้างสรรค์ชิ้นงานโฆษณาเฟสบุ๊คให้ครีเอทีฟ ดึงความสนใจของกลุ่มเป้าหมายได้ภายในไม่กี่วินาทีแรก จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก ซึ่งก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจประเภทของโฆษณา Facebook ก่อนว่า โฆษณาเฟสบุ๊คในปี 2021 นี้มีกี่ประเภทและแต่ละประเภทมีจุดเด่นอย่างไรบ้าง?
ประเภทของโฆษณา Facebook อัพเดทล่าสุด ปี 2021
1. Single Image หรือ ภาพนิ่ง
ภาพรวม : เป็นคนโฆษณาที่ถูกใช้บ่อยมากที่สุด เพราะมันทำได้ง่ายกว่าประเภทอื่นๆ โดยสามารถใช้เน้นภาพสินค้าและบริการ หรือ ภาพ key visual หลักที่เราต้องการนำเสนอ
เคล็ดลับการใช้งาน : ลองเพิ่มลูกเล่นด้วยการทำให้ข้อความหรือบางส่วนของภาพเคลื่อนไหวเล็ก ๆ น้อยได้เพื่อทำให้สะดุดตาผู้ชมมากยิ่งขึ้น
2. Video (วีดิโอ)
ภาพรวม : วีดิโอถือว่าเป็นโฆษณาอีกประเภทที่นิยมใช้บน Facebook Ad โดยการสร้าววีดิโอในปัจจุบันสามารถทำได้ง่าย ๆ หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายจากมือถือ การนำวีดิโอจากไลฟ์มาตัดต่อและนำเสนอซ้ำ เป็นต้น
เคล็ดลับการใช้งาน: เนื่องจาก Facebook แสดงผลคอนเทนท์และโฆษณาในแนวตั้ง (Vertical) ดังนั้น การสร้างคอนเทนท์รูปแบบของวีดิโอก็ควรคำนึงถึง format และ scale ของชิ้นงานให้เป็นในลักษณาแนวตั้ง (Vertical) ด้วยเช่นกัน (โดยจะพูดถึงรายละเอียดนี้ด้านล่าง) และที่สำคัญคือควรคำนึงถึงสั้นยาวของวีดิโอด้วยเช่นกัน หากเป็นวีดิโอที่ไม่ได้เป็นลักษณะ Story Telling หรือ มีการเล่าเรื่องราว ควรทำวีดิโอที่สั้น กระชับ ตรงประเด็น เพื่อดึงความสนใจจากผู้ชมให้ไวที่สุด
3. Carousel
ภาพรวม : โฆษณา Facebook แบบ Carousel Ad นี้ ถือเป็นประเภทโฆษณาที่ทำให้เราสามารถใส่ภาพและวีดิโอเข้าไปได้มาก สูงสุดไม่เกิน 10 ชิ้นงาน พร้อมทั้งโชว์ปุ่ม Call to Action (CTA) ไว้อย่างชัดเจน
เคล็ดลับการใช้งาน: ไฮไลท์ของ โฆษณา Facebook Carousel Ad นี้ คือเราสามารถเลือกในระบบได้ว่าจะให้เรียงตามลำดับที่เรากำหนด หรือ เรียงตาม performance ของชิ้นงานที่มีผลลัพธ์ที่ดีก็ได้ ซึ่งจะช่วยให้ระบบ optimize performance ตาม signal ที่ได้รับมาและนำส่งโฆษณาไปยังกลุ่มเป้าหมายได้ตรงตามที่เรากำหนดมากยิ่งขึ้น
4. Slideshow
ภาพรวม : โฆษณา Facebook แบบ Slideshow นี้ เป็นโฆษณาประเภทที่ให้เราเลือกภาพนิ่งหลาย ๆ ภาพมาร้อยเรียงเป็นเรื่องราวสั้น ๆ และ ใส่ข้อความที่ต้องการจะสื่อลงไปในชิ้นงานโฆษณาได้ โดยสามารถดูวิธีสร้างโฆษณาแบบ Slideshow ได้ตามลิ้งค์นี้ (คลิกดูรายละเอียดวิธีสร้างโฆษณาแบบ Slideshow)
เคล็ดลับการใช้งาน: จุดเด่นของ Slideshow คือ การช่วยเราประหยัดเวลาและสร้างชิ้นงานในรูปแบบภาพเคลื่อนไหวได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม อีกทั้งยังใส่ลูกเล่นที่เป็นข้อความหรือเพิ่มเสียงเพลงเข้าไปเพื่อเพิ่มความน่าสนใจของชิ้นงานโฆษณาให้มากยิ่งขึ้น
5. Collection Ad
ภาพรวม : โฆษณา Facebook แบบ Collection Ad นี้ เป็นที่นิยมมากในธุรกิจที่มีเว็บไซต์ขายสินค้าหรือมี Marketplace เป็นของตัวเอง (Shopee Lazada) หรือแม้กระทั่งร้านค้าออนไลน์ที่มีสินค้าหลากหลายชนิดก็นิยมสร้าง Collection Ad ขึ้นมาเพื่อนำเสนอในรูปแบบของแคตตาล้อกสินค้า (Product Catalog) โดยมีเป้าหมายให้ผู้ที่เห็นโฆษณาคลิกดูรายละเอียดของสินค้าได้โดยยังไม่ต้องออกจาก Facebook ไปหน้าเว็บไซต์ (คลิกดูรายละเอียดวิธีสร้างโฆษณาแบบ Collection Ad)
เคล็ดลับการใช้งาน : จุดเด่นของ Collection Ad คือ เราสามารถใส่ทั้งภาพนิ่งและวีดิโอลงไปในชิ้นงานโฆษณาเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ชมได้อย่างดี และยังให้เราใส่รายละเอียดสินค้าได้สูงสุดถึง 50 สินค้าเลยทีเดียว
6. Instant Experience
ภาพรวม : โฆษณาเฟสบุ๊คแบบ Instant Experience นี้คือโฆษณาที่จะแสดงบนหน้า Feed และหลังจากที่ผู้ชมคลิกแล้วก็จะเห็นโฆษณาได้เต็มหน้าจอแบบ 9:16 (คลิกดูรายละเอียดของโฆษณาแบบ Instant Experience)
เคล็ดลับการใช้งาน : จุดเด่นของการใช้โฆษณา Instant Experience คือ เราสามารถสร้างให้มันน่าสนใจด้วยการใส่ได้ภาพนิ่งหรือวีดิโอลงไปได้แบบเต็มหน้าจอ โดยในระบบนั้นมี Template โฆษณาให้เราเลือกทำตามได้หลายชนิด ทั้งแบบที่มีภาพนิ่ง, วีดิโอ, Slideshow, Carousel อยู่ในตัว หรือ จะเลือกเฉพาะแบบที่เราคิดว่าน่าสนใจก็ได้ (คลิกดูรายละเอียดการสร้างโฆษณาแบบ Instant Experience จาก Template)
7. Dynamic Ads
ภาพรวม : โฆษณาเฟสบุ๊ค รูปแบบ Dynamic Ads คือโฆษณาที่อาศัยหลักการ “Machine Learning” ให้ประมวลผลและทำการนำ catalog สินค้าที่อยู่บนเว็บไซต์ของเราไปสร้างเป็นโฆษณา Facebook โดยอัตโนมัติ ซึ่งสามารถสร้างโฆษณาได้ทั้งภาพนิ่ง, carousel และ collection ad (คลิกดูรายละเอียดเกี่ยวกับ Dynamic Ad)
เคล็ดลับการใช้งาน : จุดที่ถือว่าเด่นที่สุดของโฆษณาแบบ Dynamic Ads คือ การที่เราให้ระบบ Facebook ดึงสินค้าหรือบริการที่เราสร้างเป็น catalog ไว้ในระบบฯ ขึ้นมาโชว์เป็นโฆษณาในรูปแบบต่างๆ โดยอัตโนมัติ ด้วยวิธีการจับสัญญาความสนใจจากพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายในช่วงเวลานั้น ซึ่งข้อมูลที่ machine เอามาใช้ประมวลผลว่าควรแสดงโฆษณาให้กับใครก็นำมาจาก Facebook pixel ที่เราติดตั้งไว้บนเว็บไซต์ หรือ Facebook SDK สำหรับติดตั้งในแอพลิเคชั่นบนมือถือนั่นเออง
การใช้โฆษณาแบบ Dynamic Ad ถือว่าช่วยเราประหยัดพลังงานและเวลาอย่างมาก เพราะลองคิดดูว่าหากเว็บไซต์เราขายสินค้ามากกว่า 1,000 รายการ เราก็ไม่มีทางที่จะนำสินค้าทั้งหมดมายิงโฆษณา โดยที่เราก็ไม่รู้ว่าสินค้าไหนที่คนจะสนใจ ซึ่งจะเป็นการทำให้เราเสียทั้งเงินและเสียทั้งเวลาไปอย่างเปล่าประโยชน์ในท้ายที่สุด ทำให้โฆษณานี้ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มธุรกิจประเภท e-commerce ที่ขายสินค้าและบริการต่าง ๆ บนเว็บไซต์และมือถือ (เช่น พวกเว็บจองโรงแรม, ตั๋วเครื่องบิน, ห้างค้าปลีกใหญ่ๆอย่างโลตัส บิ๊กซี, เว็บไซต์พวก Lazada Shopee เป็นต้น)
ทริคส่งท้าย
ก่อนจบบทความนี้ ผมยังมีทริคเล็ก ๆ น้อยๆ เพื่อเป็นไอเดียนำไปเพิ่มความน่าสนใจในชิ้นงานโฆษณา Facebook รูปแบบวีดิโอของเรา ให้ดึงดูดความสนใจผู้ชมภายใน 3-4 วินาทีแรก ดังนี้
- สร้างวีดิโอสั้น ความยาว 10-15 วินาที เพื่อ Grab Attention ของผู้ชมในระหว่างที่พวกเขากำลังดูหน้าจอมือถือช่วงที่เดินทางหรือทำอะไรบางอย่าง เราเรียกช่วงเวลานี้ว่า “On the Go”
- ออกแบบให้วีดิโอดูได้ทั้งในตอนที่ใช้เสียงได้หรือตอนที่ใช้เสียงไม่ได้ (Sound-On / Sound-Off)
- เนื่องจากเรามีเวลาแค่ 3-4 วินาทีแรก ดังนั้น ลองใส่ส่วนสำคัญที่สุดลงไปในตอนแรกนี้ เพื่อทำให้คนจำได้ เช่น โลโก้แบรนด์ หรือ สิทธิพิเศษ เป็นต้น
- ลองสร้างภาพนิ่งและข้อความให้เคลื่อนไหวได้ เพื่อเพิ่มความน่าสนใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่จะกระตุกให้ผู้ชมหยุดที่โฆษณาของเรา
ทั้งหมดนี้ก็เป็น 7 ประเภทโฆษณา Facebook ที่สามารถนำไปลองปรับลองใช้กันได้แบบง่าย ๆ แล้วอย่าลืมนำเคล็ดแต่ละข้อไปทดลองใช้ เพื่อทำให้กลุ่มเป้าหมายหรือผู้ชมของเราเขาสนใจในโฆษณาและคอนเทนท์ของเราได้ง่ายมากยิ่งขึ้น